สำหรับ “พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายอกวี” นี้พุทธลักษณะโดยทั่วไปจะมีส่วนคล้าย “พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายแขนกลม” อีกพิมพ์คือรายละเอียดของพิมพ์ที่ประกอบไปด้วย เส้นซุ้ม เส้นพระเกศ พระพักตร์ เส้นพระกร พระเพลา รวมทั้ง ฐาน จะมีลักษณะที่เป็นเส้นเรียวบางแต่คมชัดให้เห็นทุกองค์ ส่วนที่ผิดแผกแตกต่างกันจนสามารถแยกออกเป็นอีกพิมพ์ได้ก็คือตรง “พระอุระ” (อก) โดย “พระสมเด็จ พิมพ์เส้นด้ายแขนกลม” พุทธลักษณะของพระอุระจะเป็นรูป “ทรงกระบอก” ทางด้านพิมพ์ “อกวี” จะมีลักษณะเป็นรูปตัว “วี” ในภาษาอังกฤษนักสะสมจึงเรียกพิมพ์นี้ว่า “อกวี” ที่พอจะชี้จุดสังเกตเป็น ข้อ ๆ ได้ดังนี้
๑. “ขอบข้างทั้งสี่ด้าน” จะปรากฏเส้นนูนเรียวบางเฉกเช่น “พระสมเด็จวัดระฆัง” ที่ผู้รู้ระบุว่าเกิดขึ้นจากการถอดองค์พระออกจากแม่พิมพ์ ขณะที่องค์พระยังหมาด ๆ จึงทำให้มีเนื้อปลิ้นออกมา
๒. “เส้นซุ้ม” เป็นเส้นซุ้มครอบแก้วที่แม้จะมีส่วนคล้าย “พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายแขนกลม” แต่การสร้างแม่พิมพ์ของนายช่างเจตนาให้เส้นซุ้ม มีลักษณะที่คล้ายกับเส้นด้ายเพราะเป็นเส้นเรียวบางที่คมชัด
๓. “พระเกศ” (ผม) มีลักษณะเป็นเส้นเรียวบางคมชัดเช่นกันพุ่งขึ้นไปจรดเส้นซุ้ม ในลักษณะมีทั้งตรงและโค้งงอช่วงกลางเล็กน้อย
๔. “พระพักตร์” (หน้า) มีลักษณะคล้ายผลมะตูมแต่ขนาดค่อนข้างเล็กกว่า “พิมพ์ใหญ่” และไม่ปรากฏ “พระกรรณ” (หู)
๕. “พระอังสา” (ไหล่) ลักษณะตรงกว้างเช่นกันกับ “พระกร” (แขน) หากดูผิวเผินจะมีลักษณะคล้ายกับพิมพ์ “แขนกลม” แต่หากพิจารณาให้ถี่ถ้วนจะเห็น ได้ว่า “พระกร” (แขน) ของพิมพ์ “อกวี” นี้ไม่วาดโค้งเป็นวงกลม ดังนั้น “พระกัป ปะระ” (ศอก) จึงไม่เป็นวงกลมด้วยโดยกางออกเล็กน้อยพร้อมกับ “หักศอก” เล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
๖. “พระอุระ” (อก) มีลักษณะนูนเด่นแต่แคบเล็กและ “ลำพระองค์” (ลำตัว) จะสอบเข้าเป็นรูป “ตัววี” จึงเป็นที่มาของชื่อพิมพ์ว่า “อกวี”
๗. “พระเพลา” (ตัก) ลักษณะเป็นเส้นเรียวบางโดย “พระชานุ” (เข่า) ด้านซ้ายมีเนื้อนูนมากกว่าด้านขวา
๘. “ฐาน” ฐานชั้นบนสุดและชั้นกลางมีลักษณะเป็นเส้นเรียวบาง โดยหัวฐานด้านขวาจะสูงกว่าด้ายซ้ายเล็กน้อยและไม่มี “ฐานสิงห์” เฉกเช่นพิมพ์ใหญ่เนื่องจากเป็นเส้นเล็กและเรียวบางนั่นเอง ส่วนฐานชั้นล่างสุดลักษณะเป็นเส้นคู่เฉกเช่นพิมพ์แขนกลม.
พุทธธัสสะ
|